NEWISREVIEWER

สวัสดีชาวมาบุญครอง ผู้อ่านจากเพจ และ realme Fanclubs ทุกๆท่านครับ
      วันนี้มาพบกับการรีวิวแบรนใหม่ของเพจเราอย่าง realme ที่พึ่งเข้ามาทำตลาดในประเทศไทยได้ประมาณ 1 ปี โดยในครั้งนี้ผมได้รับมาทั้ง 2 รุ่น คือ realme 5 และ realme 5 Pro ทั้งคู่เปิดตัวไปเมื่อวันที่ 3 กันยายนที่ผ่านมา โดยผมเลือกที่จะทำรีวิว realme 5 ก่อนเอง เพราะรุ่นนี้มีจุดเด่นทั้งด้านกล้องที่ให้มาทั้ง กล้องหลัก(Sony IMX386) Ultrawide Macro และ Depth Sensor นอกจากนั้นยังมากับชิปรุ่นใหม่อย่าง Snapdragon 665 ที่จะทั้งเย็นและประหยัดพลังงาน รวมกับแบตเตอรี่ที่มีขนาดใหญ่ถึง 5,000mAh สมใจทุกๆท่านที่อยากอึดแน่นอน
      realme 5 มีหน้าจอขนาดใหญ่ เหมาะกับทุกวัย ขอบข้างจอบางและอัตราส่วนของหน้าจอ 20:9 ทำให้ตัวเครื่องกระทัดรัด พกพาได้ง่าย มีแบตเตอรี่ที่มีความจุเยอะถึง 5,000 mAh ทำให้พอกับการใช้งานระหว่างวันอย่างแน่นอน โดย realme 5 มี Spec ดังนี้
หน้าจอ : 6.5 นิ้ว IPS LCD ความละเอียด HD+ 1600x720 pixels อัตราส่วน 20:9 แบบติ่งหยดน้ำ ครอบทับด้วยกระจก Gorilla Glass 3+ โดยจะมีความหนาแน่นของพิกเซลประมาณ 269 ppi
CPU : Qualcomm Snapdragon 665 (11nm)
GPU : Adreno 610 พร้อม Game Space
กล้องหน้า : 13 MP f/2.0 ที่ระยะ 26mm. เซนเซอร์ขนาด 1/3 นิ้ว กับพิกเซลขนาด 1.12 micron
กล้องหลัง : 12 MP f/1.8 (Sony IMX386) ขนาด 1/2.9 นิ้ว 1.25 micron PDAF + 8 MP f/2.2 Ultrawide มุมกว้าง 119 องศา + 2MP f/2.4 Macro Lens ถ่ายได้ในระยะ 4cm. + 2MP f/2.4 Depth Sensor
Ram : 3/4 GB
ความจุภายใน : eMMC 5.1 64/128 GB
ระบบปฎิบัติการ : Android 9.0 Pie ครอบทับด้วย ColorOS 6.0.1
การเชื่อมต่อ : micro USB 2.0 OTG, รูเสียบหูฟัง 3.5มม., Bluetooth 5.0 และ WiFi Dual Band
แบตเตอรี่ : 5,000 mAh ชาร์จด้วย micro USB 5V2A 10Watt

- หน้าจอ, ความสว่าง, สีที่แสดงผล, การตอบสนองทัชสกรีน และวัสดุของตัวเครื่อง –

      realme 5 มากับหน้าจอขนาด 6.5 นิ้ว ติ่งแบบหยดน้ำเล็กๆด้านบน ให้อัตราการแสดงผล 89% เป็นพาแนลแบบ IPS LCD ความละเอียด HD+ @269 ppi ตัวจอครอบด้วยกระจก 2.5D ที่เป็น Gorilla Glass 3+ กับความสว่างที่เร่งได้สูงถึง 890nits สู้แดดได้สบายๆ แต่ในความที่เป็นจอ HD+ ทำให้ความคมของตัวอักษร หรือคลิปวีดีโอนั้นน้อยลง สีสันที่ได้ไม่ได้สดใสมากนัก ฟีลลิ่งในการทัชกรีนก็ถือว่าดีในเรทราคานี้ เนื่องจากไม่พบทัชลั่น ทัชเพี้ยนแต่อย่างใด แต่ก็ไม่ได้ติดนิ้ว เมื่อเล่นเกมกลับไม่พบอาการตอบสนองช้าดังกล่าว และหน้าจอชุดนี้สู้แสงได้ดีมากๆ ไม่กลัวแดดแรงแต่อย่างใด และสว่างเกินความคาดหมายไปมากครับ

      ในบริเวณของติ่งแบบหยดน้ำมีกล้อง 13MP f/2.0 อยู่ ด้านบนเป็นลำโพงสนทนาที่มีเสียงดังประมาณ 60-70 dB ซึ่งดังมากพอสำหรับการใช้คุยในห้องที่มีเสียงดัง และขอบด้านบนจะมีการฝังเซนเซอร์ต่างๆไว้

     ฝาหลังมากับการดีไซน์ใหม่แบบ 3D Diamond Cutting ที่มีขอบโค้งรับกับการจับของมือได้เป็นอย่างดี โดยเครื่องที่ผมได้รับมาจะเป็นสี Crystal Blue สแกนลายนิ้วมือด้านหลังที่มีพื้นผิวสัมผัสแบบด้านทำงานได้อย่างรวดเร็ว โดยฝาหลังจะเป็นพลาสติก อาจจะต้องหมั่นดูแลไม่ให้ฝุ่นไปติดในเคสนะครับ

      ตัวเครื่องมีปุ่ม Power อยู่ทางด้านขวา และปุ่มเพิ่ม-ลดเสียงทางด้านซ้าย ถาดซิมการ์ดจะอยู่เหนือปุ่มเพิ่ม-ลดเสียง โดยมีถาดแบบ Triple-Slot ที่รองรับ VoLTE และเสาถูกฝังไว้ภายในตัวเครื่อง มีการรองรับ WiFi ทั้ง 2.4 และ 5GHz แล้ว

      ด้านล่างจะมีช่องเสียบหูฟัง 3.5mm. ไมโครโฟนเพียงตัวเดียวของเครื่อง อยู่ทางด้านซ้าย ช่อง micro USB อยู่ตรงกลาง และลำโพงทางด้านขวา

- ประสิทธิภาพ, การเล่นเกม และความร้อน –

     realme 5 เลือกใช้ชิป Snapdragon 665 (11nm) ชิปที่อัปเกรดจาก Snapdragon 660 (14nm) เปลี่ยนสถาปัตยกรรมใหม่ เห็นผลชัดเจนในด้านความร้อนและพลังงาน โดยในเกม PubG จะสามารถปรับได้ระดับ Balanced+Medium หรือ Smooth+High ซึ่งถ้าให้แนะนำ เล่น Smooth+High จะดีกว่าครับ เฟรมเรทจะอยู่ในช่วง 30 ไม่สามารถปรับเฟรมเรทสูงได้ ทำให้เกมดูไม่ลื่น กระตุกๆหน่วงๆเล็กน้อย ซึ่งเราอาจจะได้อัพเดตแบบจีนในอนาคต ที่จะสามารถเล่นเฟรทเรทสูงได้ (Balanced+Ultra/HD+High) ส่วนการเล่นปกติไม่มีอาการเฟรมเรทตกให้เห็น แต่อาจจะขัดใจคนที่เคยเล่นรุ่นบนๆมา ก็อาจจะต้องใช้โปรแกรมช่วยปรับอย่าง GFX Tools ครับ เมื่อใช้ช่วยแล้วก็ลื่นๆ ไม่หน่วงไม่กระตุกแบบเดิมแล้ว

      คะแนน Antutu ของ realme 5 สูงจนน่าตกใจว่าด้วยเรื่องของราคา มีคะแนน V7.2.2 ถึง 140,048 คะแนน และ V8.1.0 ถึง 171,688 คะแนน (ก็อย่าให้ใครเอา V8 มาขิง V7 ละกันนะครับ) และถ้าเกิด Stress test 15 นาทีแล้วก็จะมีอาการ Throttle น้อยๆ ไม่กี่ % มีการจัดการพลังงานและความร้อนได้ดี ระหว่างทดสอบพบว่าตัวเครื่องอุ่นๆ
 

     AndroBench วัดความเร็วของความจำภายในที่เป็น eMMC 5.1 ทำให้พบได้ว่ามีความเร็วการอ่านในระดับ 300MB/s และเขียนประมาณ 240MB/s ทำความเร็วได้มากกว่า eMMC 5.1 ทั่วๆไป และมีค่า Write ที่สูงใกล้เคียงกับ UFS 2.1 เลยทีเดียว

- เสียงจากลำโพง และรูหูฟัง 3.5 มม. -

     ลำโพงของ realme 5 จะมีเพียงหนึ่งตัวด้านล่างขวาของตัวเครื่อง เป็นลำโพงที่มีเสียงกลางเป็นหลัก เสียงสูงจะน้อย โดยเฉพาะเสียงเบสที่น้อยมากๆ แต่ก็ยังฟังเพลงได้เพลิน มีเสียงดังประมาณ 85dB เนื้อเสียงอาจจะไม่เหมาะกับคนชอบเนื้อเสียงดีๆเท่าไหร่ เน้นไปในทางคนชอบฟังเรื่อยๆ ไม่ได้สนรายละเอียดครับ
     รูเสียบหูฟัง 3.5มม. ให้เสียงที่ออกมาดีมากๆ มีเบสที่หนัก เสียงกลางกำลังดี สูงไม่มาก ออกแนวที่จะเหมาะกับการฟัง EDM แต่ก็ยังดรอปไปทุกๆด้าน ทุกๆอย่างในด้านเสียงที่ออกมาจากรูเสียบหูฟังอยู่ในเกณฑ์ที่เกินราคา และว้าวสำหรับผม จากการทดลองก็พบว่าเสียงที่ออกมามีรายละเอียดมากกว่า realme 5 Pro เสียอีกครับ

- การใช้งานประจำวัน, GPS, Software และ User Interface –

     ถึงแม้ realme 5 มากับหน่วยความจำภายในแบบ eMMC 5.1 แต่ก็มีการตอบสนองที่รวดเร็ว ไม่มีการหน่วงให้เห็น แต่หน้า UI ในหน้าจอหลักของตัวเครื่องค่อนข้างช้า และเป็นส่วนทำให้รู้สึกว่าทัชสกรีนไม่ดี แต่อย่างไรก็ตาม เมื่อเล่นเกมแล้วยังไม่พบอาการใดๆครับ
 ในส่วนของ GPS ตัวนี้ก็ใช้ได้ ตอนเปิดนำทางใหม่ๆแบบกดเร็วๆ อาจจะทำงานไม่ทัน และทิศทางยังงงๆ แต่เมื่อผ่านไป 10-15 วินาทีก็สามารถนำทางได้ตามปกติ ไม่หมุน ไม่วาปไปมา และในการใช้งานประจำวันแบบไม่เล่นเกม แบตเตอรี่ของรุ่นนี้จะอยู่ได้ประมาณ 38-42 ชั่วโมง โดยจะมี Screen On time ได้ประมาณ 9 ชั่วโมงขึ้นไป ก็จะเหลือแบตเตอรี่ประมาณ 10-20% แต่ถ้าอยู่ในที่แดดจัดๆอาจจะลดเวลาที่ใช้ได้ไปพอสมควรเนื่องจากเร่งความสว่างสู้แสงได้สว่างมาก และเมื่อใช้แสงสว่างมากก็จะพบว่าตัวเครื่องร้อนและแบตเตอรี่ลดเร็วกว่าปกติอย่างเห็นได้ชัดครับ

- กล้องหลัง 4 ตัว Quad Camera และกล้องหน้า 13MP -

      realme 5 มากับกล้องหลัง 4 ตัวที่เป็น 12 Megapixel f/1.8 Sony IMX386 (WithoutOIS) + 8 Megapixel f/2.2 Ultrawide 119 องศา + 2MP f/2.4 Macro Lens + 2MP f/2.4 Depth Sensor พร้อม Electronic Image Stabilizer (EIS) ทำงานในวีดีโอ HD และ FHD 30fps โดยจะสามารถถ่ายวีดีโอได้ถึง 4k 30fps แต่ EIS จะไม่ทำงาน ในส่วนของภาพนิ่งในที่แสงมาก สามารถเก็บรายละเอียดและแสงสีได้ดี แต่ในที่แสงน้อยจะมี Noise ค่อนข้างมาก และ Nightscape ต้องถือให้นิ่ง โดย AI สามารถทำงาน detect scene ได้อย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะเมื่อนำมาถ่ายอาหารพบว่าทำให้อาหารดูน่ารับประทาน ไม่สว่างเกินไป สีไม่สดเกินไป ได้โทนที่กลมกล่อมมากๆ กล้อง Ultrawide เป็นแบบ Fixed Focus ที่จัดระยะมาได้ดีทำให้ไม่ค่อยพบภาพที่มีปัญหากับโฟกัส ให้มุมที่แปลกตา และยังคงเปิดมุมมองใหม่ สามารถเก็บภาพในที่แคบได้เป็นอย่างดี และยังสามารถถ่าย Nightscape ในกล้อง Ultrawide ได้อีกด้วย แต่พบข้อสังเกตคือสีจะไม่เหมือนกล้องหลัก อีกส่วนคือกล้อง Macro 2MP ที่ให้รายละเอียดในที่แสงมากได้ดี ถ่ายได้ใกล้สุดๆ 4cm. ทำให้เหมาะกับสายถ่าย Macro มากๆ ทั้งสายส่องแมลง สายถ่ายพระ ส่องพืช โดยความละเอียด 2MP ไม่ได้ทำให้ภาพเป็นปัญหาแต่อย่างใด เพียงแต่กล้อง Macro ตัวนี้ไม่เหมาะกับที่แสงน้อย Depth Sensor ตัวที่ 4 สามารถจับระยะทำ Portrait ได้อย่างรวดเร็ว แต่การตัดขอบยังทำได้ไม่ดีนัก และอาจจะเบลอผิดพลาดบ่อย แต่อย่างไรก็ตาม สามารถถ่าย Portrait ได้กับทุกๆวัตถุ และยังคงถ่ายได้ในที่แสงน้อย

      กล้องหน้าของ realme 5 มีความคมชัดในระดับที่ดี มีมุมกว้างไม่อึดอัด โดยจะเน้นไปทาง Beauty ถ่ายในที่แสงมากเก็บรายละเอียดได้ดี ภาพคมและไม่เบลอ ที่แสงน้อยจะคล้ายๆภาพสีน้ำ โดยกล้องสามารถจับใบหน้าเรา และล็อคแสงได้เป็นอย่างดี ไม่ต้องห่วงเรื่องหน้ามืด หน้าดำแต่อย่างใดครับ

      หลังจากนี้ก็จะเป็นภาพตัวอย่าง ที่เก็บจากกล้องทั้ง 3 ระยะ กล้องหลัง Ultrawide และ Macro โดยไม่ได้ใช้ขาตั้งกล้อง และแต่งภาพแต่อย่างใด รูปเปิด AI หรือใช้ Nightscape เท่านั้น ไม่ได้เปิดโหมด Chroma Boost ครับ

- แบตเตอรี่ และการชาร์จ –

      มาในส่วนสุดท้ายกันแล้วนะครับ แบตเตอรี่ของ realme 5 ที่มีขนาดใหญ่ถึง 5,000 mAh ที่มากเกินพอสำหรับ 1 วันอย่างแน่นอน รอดพ้นมือจากการแบตหมดใน 1 วันจากมือของผมเองเป็นรุ่นแรก เพราะการมีแบตเตอรี่ที่ใหญ่ จุเยอะระดับนี้ รวมกับชิปประหยัดพลังงานแบบ Snapdragon 665 รุ่นใหม่ที่มากับสถาปัตยกรรม 11nm ทำให้มีการใช้พลังงานต่ำ แต่ยังคงมีประสิทธิภาพ โดยจากภาพด้านบนมีการใช้งาน Screen On Time ประมาณ 9 ชั่วโมง ซึ่งก็ถือว่ามากกว่าปกติของผมใน 1 วันที่จะใช้ประมาณ 5-7 ชั่วโมง โดยขะพอใช้อย่างแน่นอน

      นอกจากเรื่องแบตเตอรี่ก็จะเป็นเรื่องการชาร์จ การชาร์จของ realme 5 จะใช้เวลา 20-100% ถึง 3 ชั่วโมง ด้วยความที่มีแบตเตอรี่ถึง 5,000 mAh ชาร์จด้วยความเร็ว 10Watt 5V2A ทำให้ต้องใช้เวลาในการชาร์จนาน แต่เมื่อไม่พบว่าแบตหมดระหว่างวัน ทำให้เรื่องการชาร์จเป็นเรื่องที่ไม่ได้สำคัญ เนื่องจากแบตเตอรี่สามารถอยู่ได้เต็มวัน และนำมาชาร์จข้ามคืนได้โดยไม่เป็นปัญหาแต่อย่างใด เพราะมีระบบตัดไฟอัตโนมัติอยู่แล้วเป็นมาตรฐานครับ

ข้อดีของ realme 5

- มากับ Snapdragon 665 ที่ทั้งประหยัดพลังงาน และยังคงให้ประสิทธิภาพที่ดี สามารถเล่น PunG ได้ยาวๆ ไม่ต้องหวั่นกลัวแบตจะหมดเลย

- มีแบตเตอรี่ใหญ่ถึง 5,000 mAh ใช้งานได้ถึง 2 วันกับการใช้งานปกติ เล่นเกมเล็กน้อย พอกับการใช้งานสบายๆ

- กล้องสามารถถ่ายได้ดี มี Ultrawide และสามารถถ่าย Macro ได้ในราคาเพียง 4,599 บาท ให้มามากเกินราคา

- Wifi 5GHz สามารถใช้งานได้เต็มประสิทธิภาพ มากกว่า 330 Mbps อีกด้วย

- ดีไซน์ของตัวเครื่องสวยงาม สแกนลายนิ้วมือด้านหลังทำงานได้อย่างรวดเร็ว และมีพื้นที่สแกนลายนิ้วมือมาก

- มีการอัพเดตอย่างต่อเนื่อง และประกาศอัพเดต Android 10 แล้ว ในไตรมาสที่ 2 ของปีหน้าแล้ว

- ลำโพงด้านล่างตัวเครื่องมีความดัง 85dB มีเสียงที่ดังพอสำหรับการฟังเพลง

- เสียงจากรูหูฟัง 3.5มม. สามารถฟังเพลงได้สนุก เสียรายละเอียดไม่มาก และมีเบสที่ทำให้เหมาะกับฟัง EDM

- ลำโพงสนทนาเสียงดังคมชัด สามารถทำให้ได้ยินในที่ๆเสียงรบกวนค่อนข้างมาก

- หน้าจอไม่พบอาการทัชเพี้ยน ทัชรวนแต่อย่างใด และตัวเครื่องยังมีการประกาศไว้ว่าสามารถทนน้ำทนฝุ่นได้อีกด้วย

- ตัวเครื่องสามารถเพิ่ม micro SD Card ได้ ทำให้ถ้าเกิดความจำไม่พอก็สามารถซื้อมาเพิ่มได้ครับ แนะนำซื้อที่ดีๆหน่อยเนอะ

ข้อพิจารณา

- เมื่อมีแบตเตอรี่ 5,000 mAh แล้ว แต่ยังคงชาร์จด้วย 5V2A 10Watt ทำให้ใช้เวลาในการชาร์จที่นานมากๆ

- ลำโพงด้านล่างตัวเครื่องมีเบสน้อย เนื้อเสียงที่ให้ไม่ไพเราะ ไม่เหมาะกับผู้ชื่นชอบในเสียงเพลง

- วัสดุของตัวเครื่องยังคงเป็นพลาสติก ควรจะติดฟิล์มด้านหลัง และใส่เคส

- ไมโครโฟนมีเพียงตัวเดียวด้านล่าง แต่สำหรับการสนทนาก็ไม่ได้พบปัญหาแต่อย่างใด

- ยังคงเชื่อมต่อผ่าน micro USB ทำให้ค่อนข้างหาสายชาร์จยากในปัจจุบันแล้ว

realme 5 เป็นรุ่นที่มีข้อดีข้อเสียให้พิจารณาพอสมควร แต่ถ้าว่าด้วยความคุ้มค่า ยังไงก็ถือว่าคุ้มที่สุดในเรทราคานี้ ถ้าอีกตัวก็คงจะเป็นแบรนด์แม่อย่าง OPPO A5 2020 แต่อย่างไรก็ตาม ด้วยราคาเริ่มต้นเพียง 4,590 บาท ก็พบว่านี่คือที่สุดของความคุ้มค่า และคงไม่ต้องตัดสินใจอะไรมากมาย ซื้อง่ายๆได้ทั้งที่ Lazada Mall, ช็อป True และ Dtac ครับ

โดยของ Truemove H ก็จะมีโปรโมชั่นพร้อมแพ็ค 699 ติดโปร 1 ปี ซื้อเครื่องในราคา 1599 บาท และของ Dtac แพ็ค 599 ติดโปร 1 ปี ซื้อเครื่องในราคา 890 บาทเท่านั้น! ขอบคุณผู้อ่านทุกๆท่าน แล้วเดี๋ยวเจอกันในรีวิวถัดไปครับ